1955- Birth of engines
ปี 1955 - กำเนิดเครื่องยนต์รุ่นต่างๆ

โลโก้แรกของยูดี - สัญลักษณ์ของเครื่องยนต์สมรรถนะสูง

สร้างสรรค์เครื่องยนต์ดีเซลและรถบรรทุกดีเซลคันแรกสำเร็จ

นิฮอน ดีเซล อินดัสทรี จำกัด (ปัจจุบันคือ ยูดี ทรัคส์ คอร์ปอเรชั่น) กำเนิดขึ้นที่โตเกียวเมื่อเดือนธันวาคมปี 1935 เดิมที่บริษัทซื้อเทคโนโลยีมากจากยุโรปและเริ่มสร้างโรงงานใหม่เพื่อทำการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลเครื่องแรกขึ้นมา ทั้งโรงงานและเทคโนโลยีการผลิตยังไม่ซับซ้อนนักในเวลานั้น ทำให้การผลิตแม้แต่ชิ้นส่วนง่ายๆ ให้ได้คุณภาพและความแม่นยำตามที่ต้องการกลายเป็นเรื่องที่ท้ายทายมาก

นอกจากนั้น บริษัทยังต้องดิ้นรนหาทุนเพื่อความอยู่รอดด้วย คุณเคนโซ่ อาดาชิ ผู้ก่อตั้งนิฮอน ดีเซล อินดัสทรี กับทีมงานต่างก็สู้ไม่ถอย ความทุ่มเทและงานที่พวกเขารักในที่สุดก็ประสบผลในเดือนพฤศจิกายน 1938 เกือบสามปีหลังก่อตั้งบริษัท พวกเขาทำการสร้างเครื่องยนต์ดีเซลเครื่องแรกจนสำเร็จ: เครื่องยนต์รหัส ND1 

teaser1

เครื่องยนต์รหัส ND1 เป็นเครื่องยนต์ลูกสูบห้องเผาไหมแบบยูนิโฟล เป็นการออกแบบที่พลิกโฉมเพราะไม่มีหัวลูกสูบหรือวาล์วระบายอากาศ

หนึ่งปีต่อมาในเดือนพฤศจิกายน ปี 1939 รถบรรทุกดีเซลขนาด 2.5 ตันที่ใช้เครื่องยนต์ ND1 ก็สำเร็จหลังสี่ปีจากการก่อตั้งบริษัท คุณอาดาชิตัดสินใจนำมันไปวิ่งทดสอบบนถนนที่กันดารที่สุดในญี่ปุ่นเป็นระยะทาง 3,000 กิโลเมตร ความสำเร็จทางเทคนิคในสภาพการทำงานจริงเช่นนี้ทำให้นิฮอน ดีเซล อินดัสทรี เริ่มขยายกิจการและขยายความจุให้กับเครื่องยนต์ ND1 โดยการเพิ่มกระบอกสูบขึ้น มันกลายเป็นเครื่องยนต์ ND2 ที่มีสามกระบอกสูบ (90 แรงม้า) ในปีดียวกันนั้นเอง

รถบรรทุก LD1 ขนาด 2.5 ตันสร้างเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ปี 1939 เป็นรถบรรทุกดีเซลคันแรกที่คุณอาดิชิและทีมผลิตขึ้นมา 

ย่างเข้าปี 1950 ญี่ปุ่นเริ่มฟื้นฟูจากสงครามและเข้าสู่ยุคของความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ มีการก่อสร้างสาธารณูปโภคอยู่ทุกหนแห่งรวมถึงแหล่งกำเนิดไฟฟ้า ถนน ทางรถไฟ ท่าเรือและโรงงานขนาดใหญ่ การขาดแคลนด้านระบบขนส่งเป็นปัญหาใหญ่ในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น ความต้องการใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มีกำลังสูงจึงมีมหาศาล

teaser2

ตอนนั้นไม่มีบริษัทญี่ปุ่นรายอื่นที่ผลิตรถบรรทุกใหญ่ที่มีกำลังเกิน 200 แรงม้าที่ใช้ในการขนส่งทางไกลเลย ดังนั้น บริษัทจึงพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ขึ้นในปี 1953 สมัยนั้นเครื่องยนต์สองสูบมีเสียงดังมากและมีความสูงมาก จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับเครื่องยนต์แบบ Uniflow scavenging ที่นำอากาศเข้าทางด้านล่างกระบอกสูบและปล่อยออกทางด้านบน ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของอากาศ มีเสียงเบาลงและน้ำหนักเบาลงด้วย ทั้งยังมีกำลังมากกว่าเครื่องยนต์สองสูบมาก

เดือนมกราคม ปี 1955 บริษัทเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลใหม่สองรุ่น: UD3 110 แรงม้าขนาดสามสูบ และ UD4 150 แรงม้าขนาดสี่สูบ ต่อมาในเดือนมิถุนายนเปิดตัวเครื่องยนต์ 230 แรงม้า UD6 ที่มีน้ำหนักต่อแรงม้าสูงกว่าเครื่องยนต์อื่นๆ ของบริษัทถึง 40% ด้วย ทำให้มีชื่อเสียงทั่วโลกว่าเป็นเครื่องยนต์ที่เบาที่สุดเทียบกับแรงม้าที่ผลิตได้ สถานะภาพของแบรนด์ยูดีได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวางขึ้น

เครื่องยนต์ยูดีที่ออกแบบใหม่นี้เปิดตัวในเดือนมกราคม 1955 มันมีกำลังมากกว่าเครื่องยนต์สองสูบ ใช้ระบบ Uniflow scavenging เพิ่มประสิทธิภาพการดูดอากาศ และลดเสียงดังลง มีขนาดกะทัดรัดขึ้นและน้ำหนักเบา

เครื่องหมายการค้ายูดีที่รู้จักกันทั่วโลก

"UD" แต่เดิมย่อมาจากชื่อเครื่องยนต์ Uniflow scavenging Diesel engine เนื่องจากยุคนั้นมีการออกแบบเครื่องยนต์ขึ้นหลายรูปแบบมาก บริษัทตัดสินใจปั๊มตรา UD ลงไปเพื่อความแตกต่างจากคู่แข่ง ต่อมาตลาดเริ่มยอมรับรถบรรทุกกำลังสูงที่ใช้เครื่องยนต์ยูดี บริษัทจึงนำเครื่องหมายยูดีมาติดไว้ที่ตัวรถด้วย เครื่องหมายนี้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทในระดับสากลจนกลายเป็นชื่อของบริษัทในทุกวันนี้

เครื่องยนต์ยูดี: นวัตกรรมของการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันเทคโนโลยีการประหยัดเชื้อเพลิงคือหัวใจหลักในการแข่งขันของยูดี ทรัคส์

teaser1

นับจากเครื่องยนต์ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกของบริษัท เมื่อปลายปี 1938 - เครื่อง  ND1 60 แรงม้า - การมุ่งเน้นนำเสนอนวัตกรรมด้านประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงก็กลายเป็นจุดแข็งของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง

ความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพเป็นหัวใจสำคัญของเครื่องยนต์ยูดีทุกรุ่น หลักสำคัญเหล่านี้ถือเป็น DNA รถบรรทุกของยูดี ทรัคส์ และได้ผลักดันให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ช่วงต้นปี 1955 เราผลิตเครื่องยนต์สองจังหวะออกมา ต่อมาเริ่มแข่งขันกันสร้างแรงม้าทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศเพราะรถบรรทุกต้องเดินทางไกลขึ้นและผู้โดยสารก็อยากจะไปถึงที่หมายเร็วขึ้น เครื่องยนต์ 150-200 แรงม้าจึงมีความต้องการสูงมาก เครื่องยนต์ Uniflow scavenging ของยูดีเป็นเครื่องยนต์แรกที่ของบริษัท ญี่ปุ่นที่สามารถสร้างกำลังระดับนี้ได้ ต่อมาบริษัทผลิตเครื่องยนต์ UD6 ซึ่งสร้างแรงม้าได้ 230 แรงม้าที่มีน้ำหนักตัวลดลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นทั่วไปซึ่งทำให้เป็นรุ่นที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก สำหรับเจ้าของรถบรรทุกนั่นหมายความว่าน้ำหนักรวมของรถจะน้อยลง กินเชื้อเพลิงน้อยลง และบรรทุกได้มากขึ้น

teaser4

ในตอนนั้นเน้นที่กำลังเครื่องยนต์มากกว่าประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง ทำให้เข้าสู่ยุคของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จเจอร์ในปี 1971 บริษัทผลิตเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จเจอร์หัวฉีดผันแปรเป็นเครื่องแรกของประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในสองเครื่องยนต์แรกของโลกด้วยในปี 1990 และผลิตเครื่องยนต์ขนาดกลางที่ใช้วาล์วเซรามิค 4 วาล์วในปี 1993 ด้วยกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นในครึ่งหลังของปี 1990 ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงกลายเป็นตัวขับเคลื่อนการขายที่สำคัญของยูดี ทรัคส์ จิตวิญญาณของผู้ก่อตั้งคุณเคนโซ่ อาดาชิ ยังคงเป็นแรงผลักดันนวัตกรรมที่มุ่งเน้นในการผสมผสานเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพเข้ากับระบบส่งกำลังความเร็วสูงเพื่อสร้างแรงบิดที่ดีที่สุดตลอดเวลา

teaser5

ESCOT-II ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังความเร็วสูงแบบกึ่งอัตโนมัติรุ่นแรกของประเทศญี่ปุ่นสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ได้เปิดตัวเมื่อปี 1995  เครื่องยนต์รุ่น GE13 ที่ผลิตในปี 1998 เป็นเครื่องยนต์แรกในโลกที่ใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์แบบบอลแบริ่งที่มีประสิทธิภาพการตอบสนองดีกว่า และใช้น้ำมันหล่อลื่นน้อยกว่า เครื่องยนต์เหล่านี้ใช้งานได้ยาวนานและมีชื่อเสียงด้านประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง

ในปี 2004 ซึ่งเป็นไปตามกำหนดการด้วยข้อบังคับเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษของญี่ปุ่นในปี 2005 ที่เข้มงวดที่สุดในโลกในขณะนั้น รถยูดี ควอนได้สร้างมาตรฐานใหม่ทั่วโลกสำหรับประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม มันถูกผลิตขึ้นมาใหม่หมดเพื่อช่วยลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ลู่ลม มีแชสซีน้ำหนักเบา ใช้หัวฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูงแบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มการเผาไหม้เชื้อเพลิงและมียูเรีย SCR เทคโนโลยีสำหรับการทำลายคาร์บอนมอนนอกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซดในไอเสีย เทคโนโลยีดังกล่าวถูกนำมาประยุกต์ใช้กับเครื่องยนต์ GH11 และซีรี่ส์ล่าสุดรวมทั้งควอนและคอนดอร์ด้วย เครื่องยนต์เหล่านี้ติดตั้งฟังก์ชั่น Eco-mode และ ESCOT-Roll ระบบส่งกำลังอัตโนมัติแบบควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เกียร์ ESCOT-V และเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ลูกค้าของเรามีประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม

เปิดตัวในปี 2013 เควสเตอร์พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดทั่วโลก ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและระบบขับเคลื่อนที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์ขนาด 8 และ 11 ลิตรจะทำงานได้ดีในย่านส่งกำลังที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลา พร้อมกับให้ความยืดหยุ่นในการเลือกชุดขับเคลื่อนระบบเกียร์ที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เพื่อลดต้นทุนเชื้อเพลิงโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพและความทนทาน

ปี 2017 ควอนใหม่ถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รุ่น GH11 ที่ประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นซึ่งสามารถจับคู่กับกระปุกเกียร์ ESCOT-VI ใหม่ที่ควบคุมโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากการเสริมสมรรถนะด้วยเกียร์ ESCOT-V ที่มีชื่อเสียงนี้แล้ว ยังมีฟังก์ชั่นช่วยประหยัดน้ำมันอื่นๆ อีกเช่น Foretrack ระบบนี้ใช้ GPS เพื่อจดจำเส้นทางขับไปและคาดการณ์สิ่งที่กำลังมาถึง Foretrack จะเลือกอัตราทดเกียร์ให้ดีที่สุดตามสภาพเส้นทางที่ลาดลงหรือทางโค้งเมื่อเปิดโหมด Cruise control

โครเนอร์ใหม่ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ GH5E และ GH8E ที่โดดเด่น มุ่งเน้นไปที่การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง การใช้ประโยชน์จากการลดขนาดเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นขนาด 5 ลิตร 4 สูบ หรือ 8 ลิตร 6 สูบ ที่ให้ประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง / อัตราการบรรทุกที่ดีที่สุดในกลุ่มนี้ ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้กลายเป็นคุณภาพหลักของรถบรรทุกยูดีไปแล้วนอกเหนือจากความเชื่อถือได้อันเป็นในตำนานของเรา